Friends talk contact man love
Invite buying

ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การเลือกซื้อกล้องดิจิตอล..

การเลือกซื้อกล้องดิจิตอล..
วัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งาน
เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสิ่งหนึ่ง เนื่องจากกล้องดิจิตอลในปัจจุบันมีลูกเล่นหลากหลายให้เลือก แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องรู้ว่าเราต้องการกล้องประเภทใด ใช้ถ่าย ภาพงานลักษณะไหน ต้องการควบคุมระบบการบันทึกภาพของกล้องมาก น้อยเพียงใด และ output ภาพที่ถ่ายได้จะผ่านสื่ออะไร เป็นงานพิมพ์หรือแค่แสดงบนหน้าจอมอนิเตอร์ เนื่องจากราคาของกล้องจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและคุณสมบัติ ซึ่งหากเราเลือก ซื้อกล้องที่มีราคาต่ำไปแต่ไม่สามารถตอบสนองวัตถุ
ประสงค์ที่ต้องการใช้ หรือซื้อกล้องที่มีคุณสมบัติสูงเกินความต้องการใช้ในการใช้งาน ก็จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เรามารู้จักกับประเภทของกล้องดิจิตอล
ปัจจุบันกันดีกว่า 


ปัจจุบันเราสามารถแบ่งกล้องดิจิตอลออกเป็น กลุ่มใหญ่ ๆ 
ได้ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ

1. กล้องระบบคอนซูมเมอร์ เป็นกล้องที่มีระดับราคาที่ไม่สูงนัก ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ระบบการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นอัตโนมัติ มีความละเอียด
ของภาพค่อนข้างต่ำ ไม่เกิน 2 ล้าน pixel สามารถอัดภาพใหญ่สุดไม่เกิน 5 x 7 นิ้ว (หากต้องการให้ใหญ่กว่านี้อาจต้องปรับแต่งเพิ่มเพื่อให้มีความคมชัดขึ้น)
เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการกล้องสำหรับการถ่ายภาพทั่วไปหรือถ่ายภาพเพื่อแสดงบนหน้าจอมอนิเตอร์ สำหรับงาน website หรือ presentation ต่าง ๆ
สะดวกในการใช้งานเนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติ คุณภาพของภาพขึ้นกับคุณภาพของเลนส์ และระบบการควบคุมสีภายในซึ่งแตกต่างตามยี่ห้อและราคา ข้อดีคือ
จะมีลูกเล่นหรือของแถมให้มากเช่น สามารถใช้อัดเสียง บันทึกภาพเคลื่อนไหว เล่น MP 3 เป็นต้น สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการซื้อกล้องในกลุ่มนี้คือ

- ความละเอียดของภาพไม่ควรต่ำกว่า 1 ล้าน pixel
- ควรมีจอ LCD สำหรับการมองหรือจัดองค์ประกอบภาพ
- สื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลควรเป็นแบบที่หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูงนัก


2. กล้องระบบปานกลาง เป็นกล้องที่มีราคาปานกลางค่อนข้างสูง ขนาดไม่ใหญ่นัก พกพาค่อนข้างสะดวก สามารถควบคุมระบบการทำงานทั้งแบบ
อัตโนมัติ และแบบแมนนวล ความละเอียดของภาพสูง มีระบบการซูมภาพ แบบ optical ตั้งแต่ 2x – 10x ฟังก์ชันการทำงานในบางรุ่นค่อนข้างครบถ้วนไม่
น้อยหน้ากล้องระดับมืออาชีพ (Profressional) คุณภาพของเลนส์อยู่ในเกณฑ์ดี ความละเอียดของภาพจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้าน pixel งานภาพมีความ
ละเอียดคมชัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานทางการถ่ายภาพพอสมควร เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์งานภาพได้ บางรุ่นมีระบบอัดบันทึกเสียงพร้อมภาพ และการบันทึก
ภาพเคลื่อนไหวให้ด้วย แต่ลูกเล่นประเภทอื่น ๆ จะไม่มากนัก เนื่องจากเน้นประโยชน์ใช้สอยในการถ่ายภาพเป็นหลัก สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการซื้อกล้องใน
กลุ่มนี้คือ
- ความละเอียดของภาพไม่ควรต่ำกว่า 3 ล้าน pixel
- ระยะการซูมภาพควรเป็นแบบ optical อย่างน้อย 4x
- ควรมีช่องมองภาพที่ให้ความชัดเจนในการเล็งและบันทึกภาพ เนื่องจากในสภาพแสดงที่สว่างมาก ๆ การมองภาพจากจอ LCD ทำได้ไม่ดีนัก
และจอ LCD สำหรับดูภาพควรมีการปรับตั้งค่าได้และมีความละเอียดพอควร (กล้องขนาดเล็ก จอ LCD จะเล็กตามไปด้วย ทำให้ดูความคมชัดของภาพไม่ถนัด)
- ระบบการวัดแสงและการตั้งค่าในการบันทึกภาพของกล้อง ควรมีให้เลือกทั้งแบบ Manual และ Auto
- การรองรับแฟลชภายนอก (Hot shoe)
- การจัดเก็บไฟล์ภาพควรมีแบบ Tiff หรือ RAW
- สื่อบันทึกข้อมูลที่ใช้กับกล้องควรเลือกแบบที่มีความจำมากหน่อย เพราะไฟล์ภาพจะมีขนาดใหญ่ (การซื้อกล้องต้องดูว่า การ์ดความจำเป็นแบบไหน
ราคาสูง – ต่ำอย่างไร เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับกล้องในระดับนี้)
- ระบบพลังงานที่ใช้ เนื่องจากกล้องในกลุ่มนี้จะใช้พลังงานมากกว่าในกลุ่มแรก อาจกลายเป็นสิ่งสิ้นเปลืองได้

3. กล้องระดับมืออาชีพ (Professional) ผู้ซื้อกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมียี่ห้อที่ตนชื่นชอบอยู่แล้ว กล้อในกลุ่มนี้จะเน้นเรื่องการถ่ายจริง ๆ โดยจะไม่มี
ลูกเล่นอื่น ๆ ให้นอกจากระบบการปรับควบคุมกล้อง ซึ่งจะมีอย่างครบถ้วน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบบ Single Lens Reflex หรือ SLR ตัวบอดี้ของกล้องจะ
ค่อนข้างหนักและใหญ่ ระบบการควบคุมต่าง ๆ เหมือนกับกล้อง SLR ที่ใช้ฟิล์มทั่วไป ตัวรับภาพของกล้องประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าในสองกลุ่มแรก โดย
ความละเอียดของภาพจะแตกต่างกันออกไปตามกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ผลิตต้องการ ราคาของกล้องในกลุ่มนี้จะสูง แต่ประโยชน์การใช้งานก็ครอบคลุมการถ่ายภาพได้
เกือบทุกสถานการณ์ เหมาะสำหรับมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นที่สนใจเรื่องการถ่ายภาพจริง ๆ สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการซื้อกล้องในกลุ่มนี้คือ
- ความละเอียดของภาพไม่ควรต่ำกว่า 5 ล้าน pixel
- ระบบการควบคุมต่าง ๆ ควรเป็นแบบ manual override คือสามารถตั้งค่าการบันทึกได้ด้วยตัวเอง
- การโอนถ่ายข้อมูล (ปัจจุบันเน้นการโอนถ่ายโดย card reader จึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก)
- อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ใช้กับกล้อง
ประสิทธิภาพการทำงานของกล้อง

ตัวรับภาพ Image Sensor ก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการรับภาพแทนฟิล์ม บางยี่ห้อใช้ CMOS แต่ส่วนใหญ่จะใช้ตัวรับภาพแบบ CCD ขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่ถ้ามีขนาดใหญ่จะ
เก็บรายละเอียด ได้มากกว่าและราคาแพงกว่า กล้องที่มีขนาดใหญ่จะเก็บรายละเอียดได้มากกว่าและราคาแพงกว่า กล้องที่มีขนาดของตัวรับภาพเท่ากันไม่จำเป็น
ต้องมีความละเอียดของภาพเท่ากัน (Image Resolution) เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละรายมีการใช้ Software ใน การจัดการข้อมูลภาพแตกต่างกันทำให้ได้ความ
ละเอียดของภาพไม่เท่ากัน
คุณภาพของภาพ Image Quality
ไฟล์ภาพนิ่งที่ถ่ายได้ในกล้องดิจิตอลแยกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
- JPEG เป็นไฟล์ภาพที่มีการบีบอัด การเลือกบันทึกถ้าเลือกได้ (หน่วนความจำมีพอ) ควรเลือกบันทึกแบบ Fine หรือ Best เสมอ เพื่อไม่ให้ภาพมี
การบีบอัดมากเกินไป
- TIFF เป็นไฟล์ภาพที่มีรายละเอียดข้อมูลภาพครบตามการบันทึกแต่จะมีไฟล์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการนำภาพไปพิมพ์ หรือต้องตกแต่งทาง
คอมพิวเตอร์ก่อนการพิมพ์
- RAW ส่วนใหญ่อยู่ในกล้องระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูง 12 บิต/สี ไฟล์ภาพมีขนาดเล็กกว่า TIFF แต่การเปิดชมภาพต้องอาศัยซอฟท์แวร์ที่
มากับกล้องเท่านั้น ภาพในฟอร์แมท RAW นี้ ยังมีข้อมูลภาพที่สามารถปรับแต่งได้ดี เช่นปรับสว่างหรือมืดลง ปรับไวท์บาลานซ์ ฯลฯ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความ
ชำนาญด้านการถ่ายภาพหรือตกแต่งภาพเพราะสามารถแก้ไขค่าการบันทึกและอื่น ๆ ได้
สื่อบันทึกข้อมูล Image Storage
มีอยู่หลายแบบ กล้องแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นจะใช้ตัวหน่วยความจำไม่เหมือนกันแตกต่างกันไป ซึ่งหน่วยความจำที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่
- SmartMedia เป็นสื่อบันทึกที่มีขนาดบาง พกพาสะดวก แต่มีความจุไม่มากนัก กล้องที่ใช้ SmartMedia คือค่ายของ Fuji และ Olympus
ปัจจุบัน จะมี XD Picture Card ตัวใหม่ที่จะมาแทนซึ่งมีขนาดเล็กกว่า กินไฟต่ำ และจะมีความจุสูงกว่า SmartMedia มากด้วย
- CompactFlash เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่นิยมในกล้องดิจิตอล SLR รุ่นใหม่ ๆ เพราะมีขนาดเล็กและความจุสูง
- Memory Stick เป็นสื่อบันทึกข้อมูลของโซนี่ ปัจจุบันผลิตหลายรุ่นใช้ได้กับเครื่องเสียงของโซนี่บางอย่างได้ด้วยมีความจุให้เลือกหลายความจุ
ราคาค่อนข้างสูง
- CD เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่สะดวกที่สุด เนื่องจากไม่ต้องโอนถ่ายข้อมูลไปลงที่เครื่องเพราะสามารถใช้อ่านจาก CD ได้ทันที แต่เปลื่องพลังงาน
ของกล้อง กล้องที่ใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบ CD จะมีขนาดใหญ่ (เทียบกับกล้องในกลุ่มเดียวกัน)
การโอนถ่ายข้อมูล Transtering Image
ความละเอียดของภาพสูงเท่ากับไฟล์ภาพขนาดใหญ่ และต้องการความไวในการโอนถ่ายข้อมูล ซึ่งต้องดูด้วยว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ รองรับได้หรือไม่
พอร์ตที่ใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลมีอยู่หลายแบบ แต่ปัจุบันจะ support ขั้นต่ำคือ USB ส่วน IEEE 1394 (Filewire) อยู่ในกล้องระดับมืออาชีพ เนื่องจากมี
ความไวในการโอนถ่ายข้อมูลมากกว่า USB นอกจากนี้ยังมีการโอนถ่ายแบบ Infraed Connection, Direct Web Posting และ Direct Email ปัญหา
เรื่องพอร์ทการโอนถ่ายข้อมูลไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่เนื่องจากสามารถใช้ตัว card reader ซึ่งมีราคาไม่สูงนักในการโอนถ่ายข้อมูล ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่าใน
การใช้งาน
เลนส์ Lense
ทางยาวโฟกัสของเลนส์ เป็นแบบเลนส์ฟิกซ์หรือซูม และมีระยะการซูมเท่าไหร่ เป็นแบบoptical หรือ digital และมีโหมดมาโคร หรือไม่
ระบบการควบคุม Controls
- ความหลากหลายของการควบคุมในเรื่องของการบันทึกภาพ Exposure Priority, Shutter Priority, Auto
- ระดับค่าการปรับแต่งค่าสีขาว Custom White Balance, Auto, Tungsten, Fluorescent, Daylight ฯลฯ ที่จะทำให้การถ่ายภาพมี
สีสันถูกต้อง
- การปรับตั้งการโฟกัสภาพ Fixed, Auto, Manual
- ระยะใกล้สุดในการโฟกัส Focus Lock ฯลฯ
แฟลช Flash
ระยะไกลสุดของแฟลชเท่าไหร่ ระบบแฟลชเป็นแบบใด auto, on, off, red-eye, Sync และ Hot Shoe
พลังงาน Battery
ขึ้นอยู่กลับการรองรับของกล้องดิจิตอลแต่ละยี่ห้อ หากกล้องมี AC Adapter ให้ก็จะมีประโยชน์มาก
- Alkaline ราคาไม่แพงแต่ใช้ได้ไม่นาน และสิ้นเปลืองในระยะยาว
- NiCad มีปัญหาในเรื่องของ memory effect หากชาร์ตไม่ระวัง (ยังไม่หมดแล้วชาร์ต)
- NiMH ราคาสูงแต่ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่อง memory effect
- LiOn ใช้งานได้นาน ไม่มีปัญหาเรื่อง memory effect แต่ราคาจะสูงเอาการ (เครื่องชาร์ตและตัวแบตเตอร์รี)