การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของผู้บริโภคโดยผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเทคโนโลยี ที่มีการปรับเปลี่ยนและมีข้อมูลใหม่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าที่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องข้อมูลต่างๆ เร็วกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ หากคนที่สนใจหรือติดตามที่เปลี่ยนแปลง ของสินค้าประเภทเทคโนโลยีแล้วนั้น จะทราบเป็นอย่างดี สำหรับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ นั้น เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างให้ความสนใจและติดตามข้อมูลประเภทดังกล่าวมากพอสมควร ดังนั้นบริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวน 200 ตัวอย่าง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 50.0 และเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 50.0 และกลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี ดังนั้นรายได้ของกลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 3,001-5,000 บาท มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37.0 และรายได้ในช่วงระหว่าง 5,001-7,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.5 ตามลำดับ โดยกลุ่มตัวอย่างนั้นส่วนใหญ่มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีสื่อที่รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและบ่อยที่สุดคือ สื่อประเภท โทรทัศน์ คิดเป็นร้อยละ 34.0 ลำดับรองลงมาคือ สื่ออินเตอร์เน็ต คิดเป็นร้อยละ 19.5 และสื่อประเภท แผ่นพับ/ใบปลิว คิดเป็นร้อยละ 13.0 ตามลำดับเมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ หรือ ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น เกิดการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมของการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ จากการสอบถามพบว่า เมื่อต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือนั้น โดยส่วนใหญ่แหล่งที่มาของเงินสำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือของกลุ่มตัวอย่าง จะเป็นเงินที่มาจากการขอพ่อแม่ คิดเป็นร้อยละ 44.5 และ จากเงินเก็บค่าขนม/เงินออม คิดเป็นร้อยละ 34.0และพฤติกรรมในการเปลี่ยนโทรศัพท์ทันทีที่มีการออกโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ มาสู่ตลาดนั้น พบว่า กว่าร้อยละ 54.0 ที่ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ท้องตลาด และ ร้อยละ 39.0 ที่รู้สึกเฉยๆ สำหรับการที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นรุ่นใหม่ มีเพียงร้อยละ 7.0 เท่านั้นที่เห็นว่ามีความจำเป็นอย่างที่ที่ต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ทันทีที่มีออกมาสู่ท้องตลาด กรณีที่โทรศัพท์หาย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยกรณีใดๆ เช่น โดนขโมย ลืมไว้ในที่ต่างๆ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการเลือกซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ มาทดแทนเครื่องเดิม เพราะมีความจำเป็น ที่จะต้องใช้ ดังนั้นจึงได้มีการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อ พบว่าร้อยละ 48.5 มีพฤติกรรมการเลือกซื้อเครื่องใหม่ยี่ห้อเดิม แต่จะเปลี่ยนรุ่นใหม่ ลำดับรองลงมาคือ ร้อยละ 28.0 ที่มีพฤติกรรมของการเลือกซื้อแบบเครื่องใหม่ ยี่ห้อใหม่ และเป็นรุ่นใหม่ด้วยนอกจากรูปแบบของโทรศัพท์มือถือแล้ว เรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องและหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ เรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าบริการของแต่ละรายหรือแต่ละคนที่จะต้องรับผิดชอบ บางคนมีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบเป็นรายเดือน หรือบางคนจะเป็นแบบเติมเงิน ก็แล้วแต่ หลายคนพยายามมองหรือเลือกใช้แพ็กเกจที่คุ้มค่า แต่หากมีการ เปลี่ยนแปลงแพ็กเกจ โดยที่เมื่อคิดแล้วมีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม พบว่า อาจต้องใช้บริการลดลง คิดเป็นร้อยละ 64.0 และใช้บริการเหมือนเดิม คิดเป็นร้อยละ 32.0 ตามลำดับ สำหรับกรณีที่ใช้บริการมากขึ้นนั้นเพราะจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว และเมื่อค่าใช้จ่ายสูงขึ้นก็จะต้องมีการใช้บริการที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
